แรกที่สุดขอแสดงความยินดีกับ “ชัยชนะ” ของ พรรคเพื่อไทย ในฐานะไทยรักไทยคืนชีพ เหมือนที่เคยแสดงความยินดีกับพรรคพลังประชาชนมาแล้วครั้งหนึ่ง กว่าจะเป็นเสียงข้างมากในวันนี้ แต่ละท่านก็ได้ช่วยฝ่าฟันอุปสรรคทางเทคนิคต่างๆ มาอย่างทรหดอดทน เสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรอย่างน้อยก็เป็นกำลังใจสำหรับมวลชนผู้สละชีวิต และวิญญาณให้กับการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยมานานปี
แต่ สิ่งที่ตามมาติดๆ คือคำเตือนว่าอย่าประมาท เรา “ชนะ” ใน ระบบเลือกตั้งเพราะประชาชนท่านมุ่งมั่นศรัทธาอย่างท่วมท้น จนผู้อยู่ตรงข้ามกับระบอบประชาธิปไตยที่ไม่ใช่พรรคประชาธิปัตย์ตัดสินใจให้ เราเข้าสู่อำนาจรัฐในขั้นต้นและไม่ท้าทายอำนาจของประชาชนในขั้นตอนนี้ผู้ ที่ก่อรัฐประหารมาแล้ว สั่งฆ่านายกรัฐมนตรีเลือกตั้งมาแล้ว และสั่งฆ่าหมู่ประชาชนที่ไร้อาวุธใน เวลากลางวันแสกๆ กลางถนนของเมืองหลวงมาแล้ว เราจะหวังให้เขาสยบยอมต่อมติมหาชนง่ายๆ ได้หรือ
คำ ถามคือเขาจะเดินหมากในศึกชิงเมืองครั้งนี้ต่อไปอย่างไรมากกว่างาน ของรัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยชี้นำจึงมี ๒ ส่วน ได้แก่ การบริหารราชการแผ่นดินตามสัญญาที่ได้ให้ไว้กับผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือก ตั้ง กับการปกป้องระบอบประชาธิปไตยจากศัตรูรอบด้าน
อุปมา เหมือนเราได้ย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านหลังใหม่ที่สวยงามจับตา เราตื่นเต้นยินดีและช่วยกันลงแรงตกแต่งบ้านจนน่าอยู่ บางคนทาสี บางคนถูพื้น บางคนรดน้ำต้นไม้ บางคนต่อไฟ ต่างช่วยกันตามความรู้ความสามารถของตน ไม่นานบ้านนั้นก็จะพร้อมมูลและให้ความผาสุกกับผู้อยู่อาศัยได้ยิ่งขึ้น
ปัญหา คือบ้านหลังนี้มีงูพิษแอบอยู่ในซอกมุม มันเห็นคนมากมันก็หลบลึกเข้าไปในมุมมืดจนเรามองไม่เห็นตัว เพราะมันรู้ดีว่าหากออกมาเลื้อยแสดงตัวชัดเจน คนในบ้านคงรุมตีตายแน่
สิ่ง ที่เจ้าบ้านต้องช่วยทำคือ พร่ำเตือนและชี้ซอกมุมต่างๆ ที่งูเหล่านั้นอาจเข้าไปหลบซ่อนตัวอยู่ เราต้องบอกคนในบ้านให้อยู่ในความรอบคอบระมัดระวังเสมอ เพราะเรายังไม่รู้ว่ามีงูกี่ตัว แต่ละตัวมีพิษสงร้ายกาจขนาดไหน
หาก ไม่คอยเตือนให้ต่อเนื่อง คนในบ้านอาจเพลิดเพลินเจริญใจกับบ้านใหม่ และแสวงหาความสำราญกันอย่างเต็มที่ จนพลาดท่าเสียทีถูกงูมันฉกกัดตายได้ในบ้านที่สวยงามนั้นเอง
เรา เคยผ่านประสบการณ์ของรัฐบาลสมัคร สุนทรเวชและรัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์มาแล้ว โรคเห่อชัยชนะจนลืมระวังพิษพยาบาทของศัตรูที่อยู่รายล้อมนั้น อาการสำคัญขั้นตรีทูตคือความล้มเหลวและความเสียหายในการเสริมสร้างความแข็ง แกร่งของระบอบประชาชนทั้งๆ ที่ประชาชน “ชนะ” แล้วอย่างน่าภูมิใจ
ชัยชนะของพรรคเพื่อไทยในครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางปัจจัยเก่าๆ ที่ยังไม่เปลี่ยน อาทิ
กอง ทัพที่ยังยืนยันในใจว่าตนเองไม่รับคำสั่งจากรัฐบาล โดยเฉพาะกองทัพบก และโดยเฉพาะกับรัฐบาลของประชาชน เพราะถือว่ารัฐบาลเป็นเพียง “จ็อคกี้” ที่ ขี่ม้าให้กับเจ้าของคอกผู้อยู่เหนือขึ้นไปในโครงสร้างของอำนาจรัฐ ความหมายลึกลงไปอีกชั้นคือเป็นกองทัพรอรับคำสั่งจากผู้ที่อยู่เหนือขึ้นไป นั้นเอง หรือจะเรียกว่าผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญก็คงจะไม่ห่างจากความจริงนัก ซึ่งอาจเป็นคำสั่งให้ทำลายรัฐบาลนั้นได้ทุกเมื่อด้วย
สถาบัน ตุลาการที่ตัดสินคดีความตามนโยบายการเมืองของผู้มีบารมีฯ ถึงผู้พิพากษาที่เป็นไทแก่ตนเองจะมีมากและแสดงตัวชัดเจนอย่างกล้าหาญขึ้น แต่กระแสหลักของอำนาจศาลยังเป็นไปเพื่อการรักษาระบอบและสถานภาพเดิม (status quo) ของ ผู้มีบารมีฯ กฎหมายปัจจุบันจึงยังเดินตามหลักเดิมของกฎหมายตราสามดวงที่ชนชั้นปกครองทั้ง สามส่วนรวมอำนาจกันอย่างลงตัวและตัดประชาชนออกไปเสียจากสมการนั้น
สื่อ มวลชนกระแสหลักที่ยังถูกควบคุมด้วยสัญญา สัมปทาน ใบอนุญาต และผลประโยชน์ร่วมกับผู้มีอำนาจรัฐในทางอื่นๆ ถึงขั้นสะกดจิตตัวเองให้เห็นแต่ความดีงามอันล้นพ้นของฝ่ายหนึ่ง หรือหลอกตัวเองว่าอีกฝ่ายหนึ่งเลวทรามต่ำช้าจนคบไม่ได้ สุดท้ายก็เลยยืนคนละข้างกับมวลชนทั้งที่เรียกตัวเองอย่างเท่ว่าสื่อมวลชน ว่างปากขึ้นมาก็เรียกร้องสิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาคต่างๆ เสมือนตนเองมีเกียรติตามธรรมชาติอย่างสื่อสากลเขา
องค์กร ที่มิใช่รัฐ หรือ NGOs สาย ที่ประสานประโยชน์กันอย่างลงตัวแล้วยกเอาบารมีของตนไปค้ำประกันความมั่นคง ให้กับเจ้าของประเทศไทย โดยลืมประชาชนที่ตนเองเอามาอ้างทำมาหากินเสียสิ้น เราจึงได้ยินชื่อของนายแพทย์ประเวศ วะสี คุณไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม ฯลฯ เสมอๆ เมื่อมีการปรับดุลอำนาจและเปลี่ยนแปลงรัฐบาล ท่านผู้มีชื่อเสียงกึกก้องเหล่านี้จะยกอำนาจทางศีลธรรมจริยธรรม (moral authority) มา ชี้นำรัฐบาลนั้นๆ ให้เห็นโลกอย่างที่ตัวเองเห็น และทำให้เงินทองไหลมาในทางเดียวกันนั้นด้วย ในฐานะเงินสนับสนุนทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ ฯลฯ
สิ่ง เหล่านี้มิได้เปลี่ยนไปตามมติมหาชนเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๓ กรกฎาคม ๒๕๕๔ และไม่ได้แปรผันตามการสู่อำนาจของรัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทยเลย
ใคร ใกล้ศูนย์อำนาจของพรรคเพื่อไทยก็โปรดเป็นรัฐบาลไปให้ดีที่สุด นำอำนาจรัฐมาแปลงให้เป็นผลประโยชน์แก่มวลชนให้มากที่สุด แต่คนที่ไกลออกมาหน่อยหรือไม่ประสงค์จะวิ่งเข้าไปใกล้ ก็โปรดอยู่ด้วยกันในรอบนอกนี้ต่อไปเถิด ความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่กว้างไกลและลึกซึ้งกว่านี้กำลังจะเกิด และยังต้องการทุกท่านให้มาช่วยเป็นกำลังสนับสนุนอยู่
ขอความกรุณาท่านพี่น้องสองชินว่า อย่าเอาไข่ไปใส่ในตะกร้าเดียวกันหมด ตกแตกเมื่อไหร่ขบวนประชาธิปไตยอาจจะเสียหายอย่างแก้คืนไม่ได้.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น